Contents
ค่าทนาย คิดเท่าไหร่ครับ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้หรือไม่
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4164/2548 คำพิพากษาย่อสั้น
ข้อสัญญาจ้างว่าความที่ตกลงให้ผู้ว่าจ้างชำระค่าจ้างส่วนที่ 2 อีกร้อยละ 10 ของยอดหนี้ทุนทรัพย์ที่ฟ้องและจากทุกจำนวนที่ผู้รับจ้างได้ดำเนินการจนผู้ว่าจ้างได้รับชำระหนี้ เป็นข้อตกลงส่วนหนึ่งของสัญญาในการกำหนดหลักเกณฑ์การคิดคำนวณค่าทนายความในส่วนที่ 2 ตามเจตนาของคู่สัญญา โดยกำหนดหน้าที่ของผู้รับจ้างที่จะต้องดำเนินการให้ผู้ว่าจ้างได้รับชำระหนี้ก่อน จึงจะมีสิทธิได้รับชำระหนี้ในอัตราร้อยละ 10 จากจำนวนเงินที่ผู้ว่าจ้างได้รับ แต่ทั้งนี้ไม่เกินร้อยละ 10 ของทุนทรัพย์ที่ฟ้องแต่ละคดี ข้อตกลงดังกล่าวไม่เป็นการต้องห้ามตาม พ.ร.บ.ทนายความฯ และประกาศข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความฯ ทั้งไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนตาม
ป.พ.พ. มาตรา 150
(บทสรุปตามฎีกาดังข้างต้น พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เจ้าหนี้มีสิทธิได้รับชำระหนี้ค่าทนายความส่วนที่ 2 ในอัตราร้อยละ 10 ของยอดหนี้ตามฟ้องแต่ละคดี รวมจำนวน 20,314,693.08 บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 130 (7) โดยมีเงื่อนไขว่าให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้จำนวนดังกล่าวตามสัดส่วนก็ต่อเมื่อกองทรัพย์สินของลูกหนี้ได้รับชำระหนี้ตามคำพิพากษาในคดีต่าง ๆ แล้วไม่ว่าโดยวิธีใดจากการดำเนินคดีของเจ้าหนี้ตามสัญญาว่าจ้าง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 988/2507
สัญญาจ้างว่าความที่ทนายความเรียกค่าจ้างจากลูกความยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของจำนวนทุนทรัพย์ที่ฟ้องคิดเป็นเงินค่าจ้าง 24,200 บาทนั้น เป็นค่าจ้างที่แน่นอน การที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของจำนวนทุนทรัพย์ เป็นเพียงอาศัยเป็นเกณฑ์คำนวณค่าจ้างว่าความว่าจะเรียกร้องค่าจ้างคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เท่าใดของทุนทรัพย์ที่ฟ้องเท่านั้น หาใช่เป็นสัญญาแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์สินที่เป็นมูลพิพาทที่ลูกความจะพึงได้รับเมื่อชนะคดีไม่ จึงไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย และไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ฉะนั้น จึงย่อมบังคับกันได้ตามสัญญานั้น
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บ https://deka.in.th/
วิธีปรึกษาทางคดี
1.พิมพ์คำถามผ่านไลน์ กับคำถามที่หลายท่านสงสัย กดติดตาม กดแชร์ก่อนปรึกษา ขอตอบทุกคำถามผ่าน https://lin.ee/WSoov7p (ปรึกษาฟรีด้วยการฝากข้อความ)ขอบคุณครับ
2.สมัครสมาชิกโครงการบ้านทนายโอที่ให้คุณมีทนายประจำตัว สมัครเพียงครั้งเดียว ให้คำปรึกษาฟรีทั้งปีและช่วยเหลือทางคดีก่อนชั้นศาลผ่านการโทรพูดคุย เปิดรับสมัครสมาชิกแล้ว สอบถามเพิ่มเติม ไลน์ไอดี https://lin.ee/WSoov7p ขอบคุณครับ
คดีแบบใหนควรจ้างทนาย
คดีแบบใหนควรจ้างทนายหรือไปฟ้องศางเอง รู้ได้กับทนายโอ กดติดตามกดแชร์ด้วยนะครับ
EP20 ลักทรัพย์ l รับของโจร l ขโมยของ l ทนายปวีณ
ลักทรัพย์ l รับของโจร l ขโมยของ l ทนายปวีณ
กฎหมายง่ายๆกับทนายปวีณ
ให้คำปรึกษาฟรี สงสัยตรงไหนเรื่องอะไรคอมเม้นไว้เลยครับ
Facebook : ทนายปวีณ คลิ๊กเลย https://bit.ly/2QFlaDH
ไม่ไปศาลคดีแพ่งติดคุกมั๊ยครับทนายโอ
สมัครเป็นสมาชิกโครงการบ้านทนายโอ เพื่อปรึกษาคดีโดยการโทรปรึกษา
http://www.xno3caf0bb7g1f.com/OURSERVICES.html
หรือพิมพ์คำถามผ่านไลน์ กับคำถามที่หลายท่านสงสัย กดติดตาม กดแชร์ก่อนปรึกษา ขอตอบทุกคำถามผ่าน https://lin.ee/WSoov7p (ปรึกษาฟรีด้วยการฝากข้อความ)ขอบคุณครับ
แนะนำการไปศาลครั้งแรก ขึ้นศาลครั้งแรกจะต้องทำอย่างไร
คำแนะนำในการไปศาลครั้งแรก
ผมเองเห็นรูปนี้จากคลิปวีดีโอใน YouTube เกี่ยวกับการแสดงศาลจำลอง ของสภาทนายความ แล้วมีแรงบันดาลใจว่า อยากจะมาอธิบายให้กับคนที่ไม่เคยไปศาล แต่มีธุระที่จะต้องไปศาล ให้ทราบว่าจะมีอะไรบ้างที่ห้องพิจารณาคดี
เมื่อไปที่ศาล ให้เราไปตามนัด ศาลจะมีนัดตอนเช้า นัดตอนบ่าย และ บางศาลจะมีนัดตอนค่ำด้วย ไปให้ตรงเวลาแล้วไปให้ถูกศาลนะครับ จะเขียนบอกในหมายนัดที่ เราได้รับอยู่แล้วว่าต้องไปศาลใดเวลาเท่าไหร่
เมื่อไปถึงที่ศาลจะเจอกับเจ้าหน้าที่ชุดสูทสีฟ้า ให้เอาหมายเรียกให้เจ้าหน้าที่ดู เจ้าหน้าที่จะเอาหมายเลขคดีใส่ในจอคอมพิวเตอร์ ที่อยู่ที่ชั้นล่างของเปิดได้ศาล เราจะรู้ว่าเราจะขึ้นไปที่บัลลังก์หมายเลขอะไร
ถ้าเราไปถึงที่ศาลให้เราบอกกับเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ว่าเราชื่ออะไร มาในคดีหมายเลขอะไร เป็นโจทก์หรือเป็นจำเลย แล้วสามารถนั่งรอที่ม้านั่งด้านหลังห้องพิจารณาคดี
การฟังการพิจารณาคดีมีระเบียบเคร่งครัด ต้องแต่งกายสุภาพ ไม่นั่งไขว่ห้างไม่นั่งก็ไม่เล่นโทรศัพท์มือถือไม่คุยกันเสียงดัง
เราเข้าไปท่านผู้พิพากษาอาจกำลังทำงานเอกสารอยู่ จึงยังไม่ลงมานั่งบัลลังก์พิจารณาคดีเมื่อผู้พิพากษาลงนั่งบัลลังก์พิจารณาคดี ท่านผู้พิพากษาจะโค้งคำนับพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 หน้าที่หน้าบัลลังก์หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะบอกให้ทุกคนในห้องยืนตรงเคารพศาล ท่านจะบอกให้เรานั่งลงได้
บางครั้งเมื่อเราไปศาลไม่ได้มีแค่คดีเราคดีเดียวอาจมีคดีเป็น 10 คดีเข้าคิวกันอยู่ท่านผู้พิพากษาก็จะเรียกมาทีละคดีจึงขึ้นจากสอบถามนัดหมายและดำเนินกระบวนพิจารณาไปทีละคดี
สมัยก่อนผู้พิพากษาจะเขียนสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาคดีคำให้การต่างๆแล้วให้เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์พิมพ์ดีดตามที่ท่านจดให้
ทุกวันนี้ผู้พิพากษาจะบันทึกคำพูดลงในอุปกรณ์บันทึกคำพูดที่ทันสมัย แล้วท่านจะพูดหลังจากท่านพูดจบท่านคำพูดของท่านเป็นไฟล์ดิจิตอลให้เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์พิมพ์ตามคำบอกซึ่งบางครั้งต้องรอให้เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์พิมพ์เสร็จแล้วเราก็ได้มาอ่านว่าตรงตามเจตนารมณ์ของเราหรือไม่
คำพิพากจะให้ความเอาใจใส่แต่ละคดีดังนั้นเราอาจจะได้อยู่คดีท้ายๆ ก็ขอให้นั่งรอด้วยความอดทน
บางครั้งเราอาจต้องเป็นพยานในคดีแพ่งหรือคดีอาญา ก่อนที่เราจะให้การในฐานะพยานเราจะต้องสาบานตนการสาบานตนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนพิจารณาคดี การสาบานตนเป็นการสาบานต่อศาสนาที่เราเคารพนับถือและตามประเพณีเช่นจังหวัดเชียงใหม่ ก็จะสาบานตนกับพระธาตุดอยสุเทพเป็นต้น
ศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลาม มีคำสาบานที่เตรียมไว้ให้แล้วเช่นกัน เจ้าหน้าที่หรือทนายความจะถามก่อนว่าท่านนับถือศาสนาอะไรและให้สาบานตนตามศาสนาและความเชื่อของเรา
สำหรับผู้ที่ใช้ภาษาไทยไม่ได้ให้นำล่ามไปเอง ล่ามต้องสาบานตนด้วย ไม่มีล่ามและเป็นคดีอาญาทางศาลจัดหาล่ามและทนายความให้
ถ้าเราได้เป็นพยานเราถูกเรียกว่าพยานจะถูกถามโดยทนายฝั่งของเราเอง และและถูกถามโดยทนายฝั่งตรงกันข้าม ซึ่งเป็นเรื่องปกติขอให้ตอบตามความเป็นจริง
เพื่อให้การเสร็จก็อย่าเพิ่งไปไหนขอให้รอเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์พิมพ์คำให้การของเราและให้เราอ่านว่าตรงตามที่เราพูดหรือไม่แล้วลงชื่อ
การดำเนินการพิจารณาของศาลการมีคำพิพากษาและคำสั่งของศาลเป็นการใช้อำนาจ 1 ใน 3 อำนาจของอำนาจอธิปไตยของประเทศนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญและเข้มงวดก็เกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพของประชาชนในชาติ
บางคดีอาจดูคดีเล็กน้อยแต่โจทก์และจำเลยก็มีสิทธิ์ที่จะต่อสู้เพราะจะส่งผลกับสิทธิและเสรีภาพของตนเอง
นอกจากการดูหัวข้อนี้แล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงบทวิจารณ์ดีๆ อื่นๆ อีกมากมายได้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่TECHNOLOGY