5 น้ำมันที่ดีที่สุด สำหรับลดไขมัน | น้ํามันงาปรุงอาหาร | หน้าข้อมูลร้านอาหารในประเทศไทย

5 น้ำมันที่ดีที่สุด สำหรับลดไขมัน | น้ํามันงาปรุงอาหาร.

[button color=”primary” size=”small” link=”http://” icon=”” target=”false” nofollow=”false”]ชมวิดีโอด้านล่าง[/button]

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ น้ํามันงาปรุงอาหาร หรือข่าวที่เกี่ยวข้องอื่นๆ โปรดไปที่: chewathai27.com/cuisine/ การกระทำ

5 น้ำมันที่ดีที่สุด สำหรับลดไขมัน และรูปภาพที่เกี่ยวข้องน้ํามันงาปรุงอาหาร

5 น้ำมันที่ดีที่สุด สำหรับลดไขมัน
5 น้ำมันที่ดีที่สุด สำหรับลดไขมัน

สวัสดีโค้ช K. Fitterminal.com ในช่วงลดน้ำหนักและลดไขมัน เพื่อนๆ หลายคนควรเลือกทำอาหารเองเป็นส่วนใหญ่ และเมนูที่เราควรทำเป็นหลักคือ ต้ม อบ ย่าง ลาบ นึ่ง เป็นต้น แต่เชื่อว่าเพื่อนๆอาจจะเบื่อรสชาติ อยากเปลี่ยนเมนู และอยากให้มีเมนูผัดนานๆ ครั้ง แต่คำถามคือ ควรใช้น้ำมันชนิดใดในการปรุงอาหาร เช่น ถ้าใช้น้ำมันมะกอกแทนน้ำมันพืช? เราควรซื้ออันไหนดี? จะมีผลดีต่อการลดไขมันหรือไม่? วันนี้ Coach K จะมาแนะนำ 5 น้ำมันสำหรับทำอาหาร เพื่อการลดไขมันอย่างได้ผลและปลอดภัย ให้ปฏิบัติตาม น้ำมันที่ใช้ปรุงอาหาร. หากเลือกแบบที่ใช่ เราจะมีรูปร่างและสุขภาพที่ดี แต่ถ้าเลือกผิด เราอาจได้สัมผัสกับไขมันทรานส์ อนุมูลอิสระ และสารเคมีอื่นๆ ที่อาจทำให้เราอ้วนขึ้น และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ดังนั้น เราจึงต้องรู้จักเลือกน้ำมันที่เหมาะสมในการปรุงอาหาร ช่วงลดไขมัน แน่นอน ของทอด ของทอด ของอบ ต้องมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ และชนิดของน้ำมันที่เราคุ้นเคย ก็คงหนีไม่พ้น น้ำมันมะกอก กับ น้ำมันมะพร้าว เป็นต้น แต่คำถามคือ น้ำมันชนิดใดดีต่อสุขภาพมากที่สุด? หรือเราควรหลีกเลี่ยงน้ำมันทุกชนิดเลย ใช้น้ำแทนดีกว่าไหม? ที่เราจะรู้ว่าน้ำมันชนิดใดที่เหมาะกับการลดไขมัน และดีต่อสุขภาพหรือไม่? เราต้องรู้จัก “Smoke Point” ก่อน จุดควัน (SMOKE POINT) สำคัญแค่ไหน? น้ำมันที่เราควรใช้สำหรับผัดหรือผัดอาหารควรเป็นน้ำมันที่มีจุดควันสูง กล่าวคือ น้ำมันชนิดนั้นจะต้องสามารถทนความร้อนได้ดี เช่น ถ้าเรานำน้ำมันมะกอกสกัดเย็น (Extra-virgin Olive Oil) มาทำเมนูผัด อาจเกิดควันได้เร็ว เพราะมีจุดควันต่ำหรือไม่ทนความร้อน และอาจทำให้เกิดสารก่อมะเร็งได้ ดังนั้นการเลือกน้ำมันปรุงอาหาร เราต้องดูเมนูนั้นด้วย ใช้อุณหภูมิเท่าไหร่คะ? หรือใช้พลังงานเท่าไร? เพราะยิ่งชนิดน้ำมันสูง จุดควันยิ่งสูง ก็จะสามารถทนความร้อนได้ดีกว่าเท่านั้น เมื่อเพื่อนรู้หลักการพื้นฐานแล้ว มาดูกันดีกว่า น้ำมันชนิดใดทนความร้อนได้? และเหมาะสำหรับการลดไขมัน 1. น้ำมันมะพร้าว (COCONUT OIL) น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil) เป็นน้ำมันชนิดหนึ่งที่มีการถกเถียงกันว่า ดีหรือไม่ดีต่อสุขภาพ? เพราะน้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เป็นต้น แต่มีการศึกษาที่เชื่อถือได้มากมายที่พบว่าไขมันอิ่มตัวที่พบในน้ำมันมะพร้าว เป็นไขมันอิ่มตัวชนิดหนึ่งที่ดีต่อสุขภาพ เพราะมันช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น เพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) และช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจด้วย นักวิจัยยังแนะนำด้วยว่า ไขมันอิ่มตัวที่พบในอาหารทั่วไป เช่น มาการีน คือ ไตรกลีเซอไรด์สายยาว แต่ไขมันที่พบในน้ำมันมะพร้าวจะเป็นเส้นกลาง (Medium-chain Triglycerides: MCTs) ซึ่ง MCTs Oil เมื่อกินเข้าไป ตับจะเป็น สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานที่ร่างกายสามารถใช้ได้ทันที ซึ่งแตกต่างจากไขมันอิ่มตัวชนิดอื่นๆ ที่อาจทำให้ร่างกายสะสมไขมันได้มากขึ้นโดยเฉพาะไขมันหน้าท้อง อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ใช้น้ำมันมะพร้าวในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งเราอาจใช้ช้อนชาหรือช้อนโต๊ะวัด เพื่อความแม่นยำและที่สำคัญไม่ควรใช้ในการทอดหรือใช้ในเมนูทอดน้ำมัน คุณสามารถใช้น้ำมันมะพร้าวสำหรับผัดไข่หรือผัดอาหาร ซึ่งเราอาจใส่เพียง 1-2 ช้อนชา หรือมากที่สุดคือประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ นั่นเป็นเพราะน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะให้พลังงาน 120 แคลอรี ต่อมาจุดควันของน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น จะอยู่ที่ 177 ℃ น้ำมันมะพร้าวที่ผ่านกรรมวิธีจะทนความร้อนได้มากกว่า โดยที่จุดเกิดควันอยู่ที่ 232 ℃ ให้ตัวเองภูมิใจสักครั้งในชีวิต สมัครได้ที่ลิงค์ด้านล่าง แล้วมาปรึกษาก่อนรับฟรี #ลดน้ำหนัก #ลดไขมัน #ออกกำลังกายหลังคลอด ========================= ====== | ติดตามเรา | วิธีอัพเดทข้อมูล | Fitterminal LINE: Fitterminal Facebook: Fitterminal Instagram: Fitterminal เว็บไซต์: Brolls:

.

>>> สามารถหาข้อมูลที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่ chewathai27.com
แบ่งปันที่นี่

น้ํามันงาปรุงอาหาร – การค้นหาที่เกี่ยวข้อง.

#นำมนทดทสด #สำหรบลดไขมน.

[vid_tags]

5 น้ำมันที่ดีที่สุด สำหรับลดไขมัน

น้ํามันงาปรุงอาหาร.

ด้วย ข้อมูล ในหัวข้อ น้ํามันงาปรุงอาหาร นี้จะ เสนอมูลค่า มาสู่คุณ ขอบคุณมากที่รับชม.

Leave a Comment